“ไรท์แมน” ประเมินสถานการร์ตลาดอีเวนท์รวมปีนี้น่าจะกระเตื้องขึ้นมาบ้าง พร้อมลุยงานต่อเนื่อง โหมงานภาครัฐ โฟกัสงานทัวร์ริสต์แอทแทรคชั่น เดสติเนชั่น เป็นหลัก ตามรอยการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศที่ ดึงท่องเที่ยวเข้าช่วย มั่นใจปีนี้ไรท์แมน เติบโต 20% คว้ายอด 580 ล้านบาท
นายอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด และนายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA) เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้ บริษัทฯคาดว่าสถานการณ์โดยรวมของอุตสาหกรรมอีเวนท์ในไทยน่าจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นมาบ้างตามลำดับ หากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19โดยเฉพาะสายพันธ์ใหม่โอมิครอน ไม่รุนแรกมากไปกว่านี้ และสามารถควบคุมการแพร่กระจายการติดเชื้อได้ แม้ว่าในช่วงต้นปีนี้สถานการณ์ยังอาจจะมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากอยู่ก็ตาม เนื่องจากประเมินจากตัวเลขผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน2 เข็มแรกนั้นมีปริมาณที่มากพอแล้ว และส่วนใหญ่ก็มีการฉีดเข็ม3 กันแล้ว
ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตลาดรวมอีเวนท์ในประเทศไทยตกลงไปมากจากมูลค่าตลาดรวมที่ประเมินกันไว้ที่ 13,000 – 14,000 ล้านบาท ในช่วงที่สถานการณ์ปรกติและเติบโตแบบไม่ต่ำกว่า 10% มาหลายปี
สำหรับแผนของไรท์แมนในปีนี้จะเน้นไปที่ตลาดกลุ่มช่องทางการสร้างทัวร์ริส์ แอทแทรคชั่น เดสติเนชั่น (Tourist Attraction Destination) โดยเฉพาะงานในกลุ่มของภาคราชการและหน่วยงานต่างๆทั้งระดับภูมิภาค จังหวัด ที่จะมีงานประเภทนี้มากขึ้น ในช่ววที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งภาคการท่องเที่ยวจะเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่จะทำให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเงินขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้
“ช่วงรอยต่อตั้งแต่ปีที่แล้วมาถึงปีนี้ เราได้งานมาหลายโครงการแล้วในส่วนของการสร้างทัวร์ริสต์ แอทแทรคชั่น เดสติเนชั่น บางงานก็จะรับรู้รายได้ในส่วนงวดสุดท้ายปีนี้ บางงานก็จะเริ่มปีนี้ จบปีนี้ และไปคาบเกี่ยวถึงปีหน้าก็มี ซึ่งตอนนี้เรามีแบ็คล็อกปีนี้ไว้แล้วไม่ต่ำกว่า 400-500 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เราตั้งเป้าหมายรายได้รวมไว้ที่ 580 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 20% จากปีที่แล้ว ก็ไม่น่าจะพลาดเป้าหมายแล้ว” นายอุปถัมป์ กล่าว
โดยผลประกอบการของไรท์แมนที่ผ่านมา คือ ปี2561 มียอดรายได้รวม 786 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า(ก่อนโควิด -19), ปี2562ยอดรายได้รวม400 ล้านบาท ลดลง 50% , ปี 2563 มีนยอดรายได้รวม 400 ล้านบาท เท่ากับปี2562, ส่วนปี2564 มียอดรายได้รวม 480 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี2563 สำหรับสัดส่วนรายได้ของไนท์แมนยังคงเป็นหน่วยงาน ราชการภาครัฐ 80% ส่วนอีก20% เป็นภาคเอกชน
สาเหตุที่ทำให้ปี2564ปีที่แล้วเติบโต และปีนี้ที่เราก็ตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตอีก 20% เช่นกัน เพราะเราปรับกลยุทธ์ธุรกิจของเรา ทั้งระบบงาน ระบบความคิด การทำตลาด การนำเสนองาน การปรับลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
สำหรับงานโครงการต่างๆที่ไรท์แมนรับงานขณะนี้ เช่น 1. อุทยานการเรียนรู้และหอชมเมืองสมุทรปราการ2. หอศิลปวัฒนธรรมเมืองน่าน3. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าพระยา4. หอโหวตร้อยเอ็ด5. ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษารังสิต6. Swan Lake Night Safari 7. ศูนย์การวิจัยโบราณคดีบ้านเชียง อุดรธานี 8. พิพิธภัณฑ์ครุฑ
อ้างอิง
https://m.mgronline.com/business
